หลังจากในตอนที่แล้วได้เล่าไปแล้วว่า อะไรคือ TM หรือ Translation Memory ในโปรแกรมแปลเอกสารคืออะไร ถึงตอนนี้ทุกท่านคงจะมีไอเดีย เกี่ยวกับการแปลเอกสารขึ้นมาบ้างแล้ว และทราบกันบ้างแล้วว่า ลักษณะการใช้งาน หรืองานแปลเอกสารของเรา จำเป็นต้องใช้โปรแกรมแปลเอกสาหรือไม่อย่างไร
คำถามต่อไปก็คือ บรรดาโปรแกรมแปลเอกสารที่มีอยู่เกลื่อนกลาดในท้องตลาดนี่
เราจะใช้ตัวไหนดีล่ะเนี่ย แล้วเราจะมีหลักการอะไรในการเลือกใช้โปรแกรมต่างๆ ลองมาดูไอเดียจากผมดูนะครับ
นำไปใช้ประกอบการพิจารณาการเลือกโปรแกรมแปลเอกสารได้นะครับ
ความจริงแล้ว หลักง่ายๆเลยในการเลือกโปรแกรมการแปลเอกสารที่ถูกต้องก็คือ
เลือกโปรแกรมตามที่ลูกค้าต้องการครับ โดยส่วนมากในวงการแปลนี้ ลูกค้าจะเป็นผู้กำหนดมาเลยว่า
ต้องการให้เราใช้โปรแกรมอะไรในการแปล เช่น เขาจะบอกเราว่าควรจะใช้ Trados หรือจะใช้ SDL
หรือจะใช้โปรแกรมพิเศษเฉพาะของลูกค้าเองที่ใช้เฉพาะภายในองค์กร หรือที่เขียนขึ้น
เพื่อใช้ภายในองค์กรเท่านั้น
หากลูกค้าตกลงแปลแล้ว ก็จะแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับโปรแกรมที่ใช้แปลไว้ให้กับเราเลย น้อยนะครับ ที่ลูกค้าต้องการให้เราแปลโดยใช้โปรแกรมช่วยแปล แต่ไม่มีไอเดียเลยว่า ต้องใช้อะไร อย่างไร ถ้าอย่างนั้น เราถึงจะเลือกให้กับลูกค้า เราก็เลือกโปรแกรมที่เรามีและใช้การอยู่ได้ไปนั่นแหละครับดีแล้ว
แต่หากว่า นักแปลท่านใดจะไปหาซื้อโปรแกรมมาช่วยแปล โดยที่ยังไม่มีงานแปลที่เรียกร้องให้ใช้โปรแกรมใดๆมาอย่างแน่นอนแล้ว ขอแนะนำเป็นการส่วนตัวครับว่า "ไม่จำเป็น" หากได้อ่านบทความเกี่ยวกับ TM ที่ผมได้เขียนไปในบทที่แล้ว ก็จะเข้าใจดียิ่งขึ้น กล่าวย่อๆ ก็คือ หากคุณไม่ได้แปลงานแบบเดิมๆ ซ้ำๆ กันแล้ว
ไอ้พวกเจ้าโปรแกรมแปลเอกสารก็แทบจะไม่มีความสำคัญอันใดเลย
ไม่ได้ช่วยให้เกิดประโยชน์อันใดเลย ถ้าเราต้องแปลงานที่หลากหลาย ใหม่ๆอยู่เรื่อยๆ ก็ไปเปิด dict
แปลเอาเองดีกว่า ช่วยไม่ได้มากหรอกครับ ถ้าไม่ศึกษาให้ดีแล้ว ลงทุนไปซื้อมา เป็นหมื่น
มันจะไม่คุ้มเอาจ้า
เรียบเรียงโดย ศูนย์แปลภาษา ชั้นนำ Kingtranslations รับ แปลภาษา
และ แปลเอกสาร
ยินดีให้นำบทความนี้ไปเผยแพร่ แต่กรุณาให้เครดิตด้วยการลิงค์กลับมาที่เว็บไซต์
kingtranslations.com ด้วยจะเป็นพระคุณอย่างยิ่งครับ
http://www.kingtranslations.com
เสียงจากลูกค้าผู้มีความสุขของเรา และอีกมากมายที่นี่